วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

5 ตำนานความรักของดอกไม้

5 ตำนานความรักของดอกไม้



1.ดอกซากุระ
        ในแง่ของตำนาน ซากุระเกิดขึ้นมาเพราะเทวนารีองค์หนึ่ง คือโคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะเชื่อกันว่า พระนางเป็นผู้ริเริ่มปลูกซากุระขึ้นเป็นครั้งแรก จึงได้ชื่อตามพระนามของนาง  โคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะ เป็นธิดาของโอโฮยามัทซูมิ เทพแห่งภูเขา วันหนึ่งพระนางได้พบเทพนินิงิที่ชายทะเล และตกหลุมรักซึ่ง กันและกัน เทพนินิงิทูลขอเทพโอโฮยามัทซูมิเพื่อขอนางมาเป็นชายา ในตอนแรก เทพโอโฮยามัทซูมิได้เสนอธิดาอีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นเทพีแห่งก้อนหินมาเป็นคู่สยุมพรแทน แต่เทพนินิงิไม่ยอม พระองค์ยังยืนกรานในรักมั่นที่มีต่อเทวี แห่งซากุระ ในที่สุดจึงได้วิวาห์ดังที่ปรารถนา หลังอภิเษกได้เพียงวันเดียวเทพีโคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะก็ทรงครรภ์ เทพโอโฮยามัทซูมิทรงคลางแคลงพระทัยว่าบุตรในท้องไปลู กของพระองค์จริงหรือไม่   การที่เทพีโคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะ ได้กำเนิดโอรสในกองเพลิงนี่เอง ทำ ให้ชาวบ้านเชื่อกันว่า พระนางควบคุมไฟได้ เลยก็เลยมีการสร้างศาลบูชาพระนางขึ้นที่ตีนภูเขาไฟฟู จิในปี ค.ศ.806 ด้วยความหวังว่า พระนางจะช่วยไม่ให้ภูเขาไฟพิโรธ ทำให้ประชาชนเดือด ร้อน พระนางจึงกลายเป็นเทพีแห่งภูเขาไฟฟูจิด้วย จนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่ไปเยือนภูเขาไฟฟูจิมักจะแวะไปศักการะศาลของพระ นางและเชื่อกันอีกอย่าง ว่า เมล็ดพันธุ์ของต้นซากุระที่พระนางนำมาปลูกเป็นครั้งแ รกในญี่ปุ่นนั้น ก็มาจากภูเขาไฟฟูจิซึ่งพระองค์ดูแลอยู่นี่เอง


2.กุหลาบ
          ตำนานของดอกกุหลาบ มีมากมายนี่เป็นหนึ่งในตำนานที่ จขกท.เลือกมาค่ะ เป็นตำนานของโรมัน   กล่าวถึงตำนานของดอกกุหลาบว่า คิวปิดลูกชายของวีนัส เป็นผู้ทำเหล้าองุ่นหกรดดอกกุหลาบหลายดอก  กุหลาบเหล่านั้นจึงมีสีแดง  ส่วนหนามที่แหลมคมของกุหลาบเกิดขึ้นจากความ โกรธเคืองในขณะที่คิวปิดกำลังชื่นชมความหอมของดอกกุหลาบ  กลับ โดนผึ้งต่อย คิวปิดจึงควักธนูมายิงใส่พุ่มกุหลาบทำให้กุหลาบมีหนามที่แหลมคม   
            ตำนานของกรีก: มีตำนานเล่าถึงกำเนิดของดอกกุหลาบ ตามความเชื่อในเรื่องเทพเจ้าของกรีก ด้วยเช่นกันว่า เมื่อครั้งที่  เทวีแห่งความรักนามว่า...   \" อโฟรไดท์ \" (venus) ถือกำเนิดขึ้นจากท้องทะเล กุหลาบก็ได้ถือกำเนิดขึ้น  จากฟองคลื่นขาวสะอาดที่สาดซัดมาต้อนรับ   การเกิดของอโฟรไดท์ กุหลาบทุกดอกยังคงมีสีขาวบริสุทธิ์ เหมือนตอนที่ถือกำเนิดขึ้นมา จนกระทั่งวันหนึ่ง
อาโดนิสชู้รักคนหนึ่ง  ของอโฟรไดท์ได้รับบาดเจ็บ จนถึงแก่ความตายในการล่าหมูป่า กุหลาบแดงจึงมีขึ้นมาในโลก สีแดงของกุหลาบเกิดจาก     เลือดของชายหนุ่มที่หยดลงไปโดนกุหลาบที่อยู่ใกล้ บ้างก็เล่าว่า ระหว่างที่อโฟรไดท์ เร่งรีบจะไปช่วยชายคนรักเกิดโดนหนามกุหลาบ     เกี่ยวและเลือดที่รินไหลทำให้กุหลาบกลายเป็นสีแดง  และนั่นคือที่มาของกุหลาบแดงที่ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความรัก


3.ดอกลิลลี่
     เมื่อเฮอร์คิวลิสถือกำเนิด ... เทพซูสก็อยากให้บุตรชายของตนมีพละกำลังแกร่งกล้ายิ่งขึ้น จึงได้นำมาที่เขาโอลิมปัส เพื่อจะได้ดื่มน้ำนมจากอกของมหาเทวีจูโน หรือ เฮร่า ... และเมื่อสบโอกาสตอนที่เฮร่าหลับ ซูส ก็นำเฮอร์คิวลิสมาตรงอกเฮร่าและก็ดูดนม ... แต่ด้วยความที่เฮอร์คิวลิสเป็นกึ่งเทพกึ่งมนุษย์ จึงมีพละกำลังมหาศาลอยู่แล้ว ... จึงดูดนมจากอกเฮร่าแรงไปหน่อย ... เฮร่าก็ตกใจตื่น ... และเหาะขึ้นไปบนฟ้า ...ระหว่างนั้น น้ำนมจากอกก็ไหลออกมาด้วย และไหลเป็นสายยาวตกลงสู่พื้นโลก ... และกลายเป็นดอกลิลลี่สีขาว ในที่สุด ... จากนั้น ดอกลิลลี่จึงได้ถือกำเนิดขึ้นบนโลก



4.Forget me Not
       ตำนานของดอกForget me not มีมากมายนี่เป็นหนึ่งในตำนานที่ จขกท.นำมาให้อ่านค่ะ คำว่า “ Forget-Me-Not” แปลว่า อย่าลืมฉัน เป็นคำพูดสุดท้ายของผู้ชายคนหนึ่งก่อนที่ความตายจะมาพรากเขาไปจากสาวคนรัก หนุ่มคนนี้มีชีวิตอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว เขาเป็นอัศวินผู้กล้าหาญ ซึ่งมีคนรักเป็นสาวงาม ครบสูตรคู่รักเฟอร์เฟ็คท์ของสมัยนั้น วันหนึ่งทั้งคู่ไปเดินเล่นริมแม่น้ำ บังเอิญสาวคนรักเหลือบไปเห็นดอกไม้แปลกหน้าสีม่วงเข้มสดใส ซึ่งไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ชูดอกงามอยู่ริมตลิ่ง เธอก็เลยขอร้องคนรักให้ลงไปเก็บให้ ซึ่งเขาก็ทำตามโดยดี แต่โชคร้ายที่ตลิ่งลื่นมาก และตัวเขาก็ใส่เสื้อเกราะเหล็กซึ่งหนักอึ้งอยู่ ชายหนุ่มก็เลยลื่นตกลงไปในแม่น้ำที่เชี่ยวกราก เขาพยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด แต่เพราะน้ำหนักเสื้อทำให้เขาจมลงไปทุกที ชายหนุ่มรู้จุดจบของเขาคงจะมาถึงแน่แล้ว เขาจึงโยนดอกไม้ดอกงามขึ้นไปให้สาวคนรักและตะโกนบอกเธอเป็นประโยคสุดท้ายว่า “ Ne moubliez pas... อย่าลืมฉันนะที่รัก จากนั้นร่างของเขาก็จมลงหายไปในแม่น้ำ ดอก Forget Me Not ” (เป็นคำในภาษาอังกฤษแปลว่าอย่าลืมฉัน) จึงถูกตั้งให้เป็นตัวแทนของรักแท้ที่ไม่มีวันดับ เหมือนความรักของอัศวินหนุ่มกับสาวคนรักนั้นเอง


5.ดอกทานตะวัน
     ณ โบสถ์ในชนบทแห่งหนึ่งมีสาวงามผู้หนึ่งชื่อไคลธี่ เธอเป็นหญิงสาวที่มีความงดงามมาก แต่เพราะความงดงามนั้นบิดาของเธอจึงกักขังลูกสาวคนเดียวของตนไว้ในโบสถ์ ไคลธี่โดนกักขังในห้องหนึ่งซึ่งในห้องของเธอมีเพียงหน้าต่างบานหนึ่งที่สาดแสงอบอุ่นสีเหลืองเข้าภายในห้องของเธอ ไคลธี่ปราถนาที่จะได้เห็นที่มาของแสงนั้นมาก วันหนึ่งไคลธี่ตื่นขึ้นมาและได้พบว่าทหารยามไม่ได้อยู่เฝ้าไคลธี่จึงตัดสินใจออกจากห้องของเธอ ในขณะเดียวกันเทพอพอลโล(เทพแ่ห่งดวงอาทิตย์)ก็ได้ขึ้นรถม้าขี่ไปทั่วท้องฟ้าเพื่อให้ความสว่างและอบอุ่นแก่โลกของมนุษย์ ทันทีที่ไคลธี่ได้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่ประทับอยู่บนรถม้าทำให้เธอตกหลุมรักเทพอพอลโลเข้าทันที  หลังจากวันนั้นไคลธี่ก็หนีออกมาจากห้องเธอทุกวันโดยไม่สนใจว่าตนเองจะโดนทำโทษหนักหนาสาหัสเพียงใด ในที่สุดไคลธี่ก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านด้วยความรักอันมั่นคงที่ตนมีต่อเทพอพอลโล ไคลธี่ได้อฐิษฐานกับทวยเทพทั้งหลายว่า ด้วยความรักที่นางมอบให้ชายคนหนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจตลอดมา หากเธอลับลาไปขอให้เธอได้เป็นทวยเทพแห่งผกา ที่ตั้งมั่นอยู่ตราบสิ้นแสงอัจจิมาตลอดกาล  หลังจากเจ้าหญิงไคลีสิ้นลม เรียวขาของเธอได้หยั่งรากลึกลงไปในพื้นพสุธา แขนและลำตัวก็กลับกลายเป็นลำต้นใบไม้เขียว ใบหน้าอันอ่อนหวานกลับกลายเป็นสีน้ำผึ้ง เส้นผมไหมสีทองของเธอกลับกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเหลืองสดใส คอยแหงนมองเทพแห่งดวงอาทิตย์ไปทุกแห่งหนโดยไม่มีทางเหน็ดเหนื่อยและจะคอยหัน มองตลอดจนกว่าดวงอาทิตย์ของเธอจะลาลับจากคุ้งขอบฟ้า ด้วยความรักและความภักดีตลอดกาล

อ้างอิง  http://www.dek-d.com/board/view/2432223/




วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

10 ต้นไม้ต้องห้ามปลูกแล้วอาจดวงตก

10 ต้นไม้ต้องห้ามปลูกแล้วอาจดวงตก

หากช่วงนี้ใครกำลังมองหาต้นไม้มาแต่งสวนในบ้านเพื่อความร่มรื่นสวยงาม การเลือกพันธุ์ไม้ก็มีผลในทางฮวงจุ้ยเหมือนกัน เพราะหากเลือกต้นไม้ที่เป็นชื่อมงคลแล้วก็จะช่วยส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีโชคลาภหรือความเจริญ แต่หากเป็นต้นไม้ที่มีชื่ออัปมงคลแล้ว อาจนำโชคร้ายมาสู่ผู้อยู่อาศัยได้ วันนี้เราจึงนำต้นไม้ที่มีชื่อไม่เป็นมงคล ไม่ควรปลูกไว้ภายในบ้านมาฝากชาวสนุก!ดูดวงทุกคนที่กำลังอยากแต่งสวนสวยๆ ด้วยไม้มงคลกันค่ะกัน 

10 ต้นไม้ปลูกแล้วดวงตก
  

1. ต้นรัก หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้นรักถึงไม่ควรปลูกไว้ในบ้านทั้งๆ ที่ชื่อก็ฟังน่าจะไปในทิศทางที่ดี แต่ตามความเชื่อโบราณเชื่อว่า ต้นรักจะทำให้ความรักยุ่งยากขึ้นและกลายเป็นคนมากรัก(เจ้าชู้) นอกจากนี้ ยางของต้นรักหากไปสัมผัสโดนเข้าอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังได้

2. ต้นมะละกอ จัดเป็นพืชล้มลุกที่มีชื่อไม่เป็นมงคลนัก บางคนเชื่อว่ามะละกอ เหมือนกับการแตกออกเป็นกอ หรือ "ละ" จากเผ่าจากกอ ส่งผลให้คนภายในบ้านไม่มีความสุข เพราะลูกหลานจะแตกแยกออกไปเป็นกลุ่มๆ มีความคิดที่ขัดแย้งกัน ทะเลาะเบาะแว้งจนหาความสุขไม่ได้ แต่ถ้าต้องการจะปลูกไว้รับประทาน ควรปลูกไว้ริมรั้วนอกบ้าน

3. ต้นระกำ จากชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าระกำช้ำชอก เพราะฉะนั้นโบราณจึงถือว่าต้นระกำนั้นไม่เป็นมงคล หากปลูกไว้ในบ้านจะนำความชอกช้ำ ระกำใจ มาให้อยู่ตลอดเวลา

4. ต้นชวนชม มีความหมาย 2 นัย ด้วยกัน ทั้งดีและไม่ดี หากมองในด้านดี การปลูกต้นชวนชมเอาไว้ในบ้านจะส่งผลให้มีผู้คนมาชื่นชม นิยมยกย่อง กลายเป็นที่รักของคนทั่วไป แต่หากมองในแง่ร้าย ต้นชวนชมจะชักชวนให้คนมาเชยชม จึงไม่เหมาะที่จะนำมาปลูกภายในบ้านที่มีลูกสาววัยแรกรุ่น เพราะอาจจะเป็นการชักนำหนุ่มๆ ให้เข้ามาหาลูกสาวได้ เป็นการปูทางให้เกิดเรื่องเสื่อมเสียขึ้น นอกจากนี้ยางของต้นชวนชมค่อนข้างจะเป็นอันตราย หากไปสัมผัสโดนเข้า อาจเกิดอาการปวดแสบปวดร้อน

5. ต้นมะรุม เป็นต้นไม้ที่มาตั้งแต่โบราณนิยมนำมาทำแกงส้ม ชื่อของต้นมะรุมจะไปคล้องจองกับคำว่า มะรุมมะตุ้ม ซึ่งจะมีแต่เรื่องไม่ดีมารุมกระหน่ำเข้ามาจนอยู่ไม่เป็นสุข

6. ต้นชบา เรามักจะเห็นหลายๆ บ้านปลูกต้นชบา เพราะสีสันของดอกที่สวยสะดุดตา ทำให้บ้านดูสวยงาม แต่ในสมัยโบราณ ไม่นิยมปลูกต้นชบาเอาไว้ในบริเวณบ้าน เพราะดอกชบานั้นมักถูกนำไปใช้ในเรื่องร้ายๆ อย่างเช่น นำดอกชบามาร้อยเป็นพวง แล้วนำไปสวมคอหญิง-ชาย ที่เป็นชู้ หรือลักลอบได้เสียกัน กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเล่นชู้ รวมทั้งนำพวงมาลัยดอกชบาไปสวมคอนักโทษที่กำลังจะถูกประหารอีกด้วย

7. ต้นโพธิ์ ไม่ใช่ต้นไม้อัปมงคล แต่ก็ไม่ควรนำมาปลูกในบ้าน เพราะเชื่อกันว่าต้นโพธิ์ เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เหมาะสำหรับปลูกตามวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่า

8. ต้นงิ้ว ไม่ควรปลูกไว้ในบ้าน เพราะเป็นต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการมีชู้ แต่หากปลูกตามสถานที่ที่เป็นองค์กร อาคารสำนักงาน หรือสวนอาหารบางแห่ง ก็ไม่เป็นไร เพราะงิ้วเป็นต้นไม้สูงใหญ่และดูงามตา

9. ต้นเต่าร้าง เชื่อกันว่าหากสามีภรรยาคู่ใด ปลูกต้นเต่าร้างเอาไว้ในบ้าน อาจมีเรื่องต้องเลิกรากันไป เพราะชื่อของเต่าร้างแสดงความหมายไปในทางเลิกราหรือหย่าร้างกันอยู่แล้ว

10. ต้นนางแย้มป่า ห้ามปลูกต้นนางแย้มป่าในบ้านโดยเด็ดขาด ตามความเชื่อนางแย้มป่าเป็นต้นไม้ที่มีภูตผีปีศาจสิงอยู่ หากปลูกไว้ภายในบ้าน วันดีคืนดี ต้นนางแย้มป่าจะสำแดงอิทธิฤทธิ์ ทำร้ายรังแกผู้คนในบ้านให้หวาดผวาเสียขวัญ หรือเจ็บไข้ได้ป่วย

ความหมายของดอกไม้ ที่นำมาใช้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์


ความหมายของดอกไม้ ที่นำมาใช้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์


ความหมายของดอกไม้ต่างๆ ตามโบราณท่านมีความเชื่อว่า ดอกไม้แต่ละอย่างนั้น ยังมีความหมายในตัวของมันเอง ท่านจึงนำดอกไม้แต่ละชนิด มาถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่ว่าผู้ใดนำดอกไม้อะไรมาถวาย การดำรงชีวิตของผู้นั้น จะได้รับผลตามความหมายของดอกไม้ ที่นำมาถวายให้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ ดอกไม้แต่ละชนิดมีความหมายดังนี้

- ดอกมะลิหอม หมายถึง ความร่มเย็นเป็นสุข

- ดอกพุด หมายถึง พบแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่บริสุทธิ์

- เขี้ยวกระแต หมายถึง มองเห็นแต่สิ่งที่ดี

- ดอกบัวหลวง หมายถึง ความสุข, ความสำเร็จ

- กุหลาบแดง หมายถึง ความรักที่สดชื่น

- กล้วยไม้ หมายถึง ทำอะไรราบรื่น

- ไผ่กวนอิม หมายถึง เป็นมิ่งขวัญแก่ตนเอง

- ดาวเรื่อง หมายถึง พบแต่ความรุ่งเรื่อง

- ใบมะตูม หมายถึง มีชื่อเสียง

- ดอกชบา หมายถึง พบความสำเร็จ

- หญ้าแพรก หมายถึง มีความฉลาด

- ดอกลำโพง หมายถึง มีความโด่งดังทั่วฟ้า

- บานไม่รู้โรย หมายถึง รักไม่รู้โรย

อ้างอิง http://horoscope.sanook.com/

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด

สีและรูปทรง รวมถึงรูปทรง รอยหยัก กระทั่งลักษณะกลีบของดอกไม้ เชื่อว่าเกี่ยวพันกับการเคลื่อนที่ของดวงดาว และยังบ่งบอกถึง"จิตใจภายใน"ของคนที่เกิดในเดือน
        ในตำนานพุทธศาสนา กล่าวไว้ว่า หากเราได้เข้าใจความมหัศจรรย์แห่งดอกไม้เพียงหนึ่งดอกอย่างชัดเจน ก็จะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในทิศทางที่กลับกันได้เลยทีเดียว
        รู้ไหมดอกอะไรคือ"จิตใจภายใน"ของคุณตามพุทธศาสนา



เดือนมกราคม - ดอกเบญจมาศ
        หากคุณเกิดเดือนนี้ คุณจะถูกมองว่าเป็นนักอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเพณี และหัวโบราณกว่าชาวเดือนอื่น
        ดอกไม้ประจำเดือนเกิดของคุณ จึงเป็น"ดอกเบญจมาศ" ที่ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสูงส่ง บางแห่งใช้ดอกเบญจมาศแทนสัญญลักษณ์ของกษัตริย์หรือราชวงศ์ เพราะเป็นดอกไม้ที่บานเป็นเวลานานก่อนจะโรยรา ซึ่งแฝงความนัยว่ามีหลักแหลมแฝงอยู่ตัวตนเป็นพิเศษ
        คนที่เกิดเดือนนี้ จึงฉลาดหลักแหลม มีความสำเร็จในชีวิต และมีเพื่อนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา เช่นเดียวกับกลีบที่ซ้อนกันเป็นชั้นหลายชั้น ที่หมายถึงมีคนอุ้มชู เกื้อหนุนตลอดเวลา





เดือนกุมภาพันธ์- ดอกกล้วยไม้
        คุณเป็นคนที่มีความสนใจในด้านปราชญาศาสนา ประวัติศาสตร์ แต่ก็สนใจความรู้สมัยใหม่ร่วมไปด้วย เพื่อผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
        "ดอกกล้วยไม้" ที่เป็นดอกไม้ประจำเดือนเกิดของคุณ ถือเป็นดอกไม้ที่ต้องการดูแลการเอาใจใส่เป็นอย่างดี ต้องปลูกในที่ร่มหรือในเรือนเพาะชำ คำนวนอัตราสัดส่วนของน้ำและแสงให้พอเหมาะ ถึงจะงอกงามสวยงาม
        ผู้ที่เกิดในนี้ จึงเป็นต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์มีความใฝ่ฝันที่จะผลักดันความฝันตัวเองให้เป็นจริง และเต็มไปด้วยความเอื้ออาทรและเอาใจใส่ทุกๆสิ่งทุกอย่างรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ เพราะคนเกิดเดือนนี้ ฉลาดหลักแหลม รักธรรมชาติ และใจกว้าง
 แต่เนื่องจากกล้วยไม้เป็นดอกไม้มีกลีบดอกที่ค่อนข้างหนา บานได้นานกว่าดอกไม้อื่นๆ จึงต้องดูแลในระยะยาวนานและจริงจังเพื่อให้มันคงความงดงามอยู่ตลอดไป





เดือนมีนาคม - ดอกคาร์เนชั่นแดง
        หากคุณเป็นชาวเดือนมีนาคมนั้น มีสัมผัสพิเศษในการติดต่อกับโลกแห่งวิญญาณ และมีใจฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนเป็นการส่วนตัว
        ดอกไม้ประจำเดือนเกิดของคุณ คือ"ดอกคาร์เนชั่นแดง" ซึ่งเป็นดอกไม้โปรดของศิลปิน เพราะเป็นดอกไม้แห่งความผันอันลึกลับ เป็นแรงบันดาลใจที่ปรากฏเป็นงานเขียนภาพแนวสร้างสรร ผู้ที่เกิดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จึงมีบุคลิกเป็นไปในทางอาร์ท ศิลปิน ออกแนวเซอร์ กันให้เห็นอย่างชัดเจน


เดือนเมษายน - ดอกลิลลี่
         คุณที่เกิดเดือนนี้ จะถูกมองว่ามีความสนใจในด้านปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและภาพเขียนแนวสัจนิยม
        "ดอกลิลลี่"ซึ่งเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติอยู่แล้ว สังเกตได้ว่าดอกลิลลี่จะโดดเด่นกว่าดอกไม้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเป็นช่อหรือการจัดซุ้มดอกไม้ และก็เป็นที่ประทับใจให้กับทุกๆคนที่ได้รับมันด้วย




เดือนพฤษภาคม - ดอกลีลาวดี
        ชาวเดือนพฤษภาคมนี้ คือเป็นผู้ชื่นชมความงามของธรรมชาติ และมีสัมผัสพิเศษในเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ
        ดอกไม้ประจำเดือน จึงเป็น"ดอกลีลาวดี" ซึ่งเป็นดอกไม้บ่งบอกถึงความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ และบอกถึงความเป็นตัวตนของผู้ที่เกิดเดือนนี้ ด้วยลักษณะของดอกสีขาวที่ดูแล้วให้ความสงบสุข
        ผู้ที่เกิดเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีบุคลิกที่รอบคอบ สุขุม มองการณ์ไกล และเต็มไปด้วยความรักในมวลมนุษย์ ดอกลีลาวดีนี้มักถูกปลูก หรือแต่งแต้มสีสันลงในภาพวาดภาพเขียนเพื่อนชื่นชม และใช้ประโยชน์ตั้งแต่แกลอรี่งานศิลปะ ไปจนถึงการนำไปปรุงแต่งเป็นน้ำมันหอมระเหยเพื่อบำบัด
        รวมทั้งยังนำมาปรุงอาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะฉะนั้นคนที่เกิดเยี่ยงดอกลีลาวดี จึงโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ




เดือนมิถุนายน - ดอกเล็บมือนาง
        หากคุณเดือนมิถุนายน คุณจะถูกมองว่าใจเรื่องศาสนาและนิกายแปลกๆ
       "ดอกเล็บมือนาง" ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เพราะมักจะบานบ่อยๆด้วยเสน่ห์แบบง่ายๆจึงเป็นดอกไม้ประจำเดือนของคุณ เพราะเป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาด มีความงามแบบเฉพาะตัว
        ผู้ที่มีดอกไม้นี้เป็นดอกประจำเดือน จะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่น แต่อารมณ์แปรปรวนง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก




เดือนกรกฎาคม - ดอกบัว
       ชาวเดือนกรกฎาคมเช่คุณ มักฝักใฝ่ที่จะแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง และชอบที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีความกรุณาเอื้ออาทรสูง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดี
       ดอกไม้ของคุณ จึงเป็น"ดอกบัว" ที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานในสระน้ำลึก และหากมีอากาศดีเป็นสิ่งที่จะทำให้ดอกไม้นี้ผลิบานงดงามเต็มที่ ผู้ที่เกิดเดือนนี้ก็เช่นกัน คือต้องการสิ่งแวดล้อมที่อบอุ่น สวยงาม เรียบร้อยและมีระเบียบ
        คุณจึงมักจมอยู่กับห้วงแห่งความฝัน มักคาดหวังในชีวิตสูง



เดือนสิงหาคม - ดอกทานตะวัน
        ชาวเดือนสิงหาคม นับถือในพระอาทิตย์  ชื่นชมแสงแดดเป็นพิเศษ และรักธรรมชาติเป็นที่สุด
        "ดอกทานตะวัน"ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตร และความสดใสร่าเริง จึงเป็นดอกไม้ประจเดือนของคุณ
        ดอกทานตะวัน เป็นดอกไม้ที่งามและโดดเด่น แถมยังเป็นดอกไม้ที่อารมณ์ดีที่สุดในหมู่ดอกไม้ทั้งหมด ใจกลางดอกที่งามเด่นของมัน แสดงถึงความมั่นใจและไม่เรื่องมากในเรื่องของความรัก เพราะแม้จะเด่น แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเป็นพิเศษ กลับชอบที่จะอยู่อย่างสันโดษและหาความสนุกสนานใส่ตัวมากกว่า



เดือนกันยายน - ดอกทิวลิป
        คนเกิดเดือนนี้จะชอบเข้าวัดและผูกพันลึกซึ้งกับศาสนา เชื่อเรื่องโชคลางโหราศาสตร์เป็นพิเศษ
        ดอกไม้ของคุณื จึงเป็น"ดอกทิวลิป"ที่บ่งบอกถึงความนุ่มนวลและถูกขัดเกลามาอย่างดี แถมยังเป็นดอกไม้ที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าระดับปกติ มีหัวใจที่ลึกซึ้ง เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้าง
        ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้แห่งความรู้สึก"ซาบซึ้ง" สังเกตได้จากเป็นคนเจ้าระเบียบ ตรงต่อเวลา แต่ก็มักวิตกกังวลเรื่องต่างๆง่าย




เดือนตุลาคม - ดอกกุหลาบ
        คนตุลา...เป็นผู้เชื่อมั่นในความรัก และศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง รักความสงบเป็นพิเศษ
        "ดอกกุหลาบ"จึงถูกเลือกเป็นดอกไม้ประจำเดือน เพราะเป็นดอกไม้ที่มีความโดดเด่น อ่อนหวาน เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อม แถมชอบบรรยากาศที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธ์
        ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงหลงไหลกับบรรยากาศรอบข้าง แต่ก็ไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก แต่ก็เป็นคนที่มีเสน่ห์เพราะดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม



เดือนพฤศจิกายน - ดอกตะบองเพชร
        ชาวเดือนพฤศจิกายน มักมีสัมผัสเร้นลับเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องโชคลางและศาสนา
        ดอกไม้เดือนเกิดของคุณ จึงเป็น"ดอกตะบองเพชร"ที่แอบแฝงด้วยความลึกลับในกำเนิด และเกสร รวมทั้งในทุกๆกลีบ
        ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักมีความลับเป็นร้อยเป็นพันในการดำเนินชีวิต แต่กลับเป็นสิ่งที่ดึงดูงเพศตรงข้ามได้ดี เนื่องจากน่าสนใจและน่าค้นหาไม่รู้จบ ชาวเดือนนี้จึงชอบอยู่เงียบๆในออฟฟิศมากกว่าออกไปสังคมข้างนอก และจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเสมอ



เดือนธันวาคม - ดอกพุทธรักษา
        ชาวเดือนธันวาคม มีบุคลิกโดดเด่น ร่าเริงและมีความสามารถในการปลอบโยนและให้กำลังใจคนได้ดี
        "ดอกพุทธรักษา"ซึ่งเป็นดอกไม้แห่งความสนุกสนาน มีความสว่างไสวอยู่ในมุมที่น่าเบื่อที่สุดของสวน คือดอกไม้ที่บอกตัวตนคุณ เพราะผู้ที่เกิดเดือนนี้มีความประพฤติดี มีระเบียบวินัยที่ยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา จึงมักเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนฝูงในเวลาตกต่ำของชีวิต ทำให้คนอื่นรอบข้างมองโลกในทางที่ดีขึ้น เและนำคนรอบข้างไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องอยู่เสมอ

อ้างอิง http://www.moe.go.th/moe/th/blog/view-blog.php?memberid=1136&blogid=619

ดอกไม้ประจำวันเกิด

ดอกไม้ประจำวันเกิด

วันนี้เรามีดอกไม้ ประจำวันเกิดมาให้อ่านกันค่ะ ใครเกิดวันไหน ตรงกับต้นไม้ หรือดอกไม้อะไรก็อย่าลืมไปหามาปลูกนะคะ 


        เกิดวันอาทิตย์ 

          ต้นไม้ประจำวันเกิด เป็นต้นพวงแสด ต้นพุทธรักษา ต้นธรรมรักษา และต้นเยอร์บีร่าที่มีดอกสีส้ม 

          ส่วนดอกไม้ประจำวันเกิด เป็นดอกกุหลาบสีส้ม จะถูกโฉลกกับเธอที่เกิดวันอาทิตย์

          คนเกิดวันนี้มีนิสัยทะเยอทะยานและกระตือรือล้น เธอและดอกไม้มีความหมายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ ดอกไม้อีกชนิดสำหรับผู้เกิดวันนี้คือ ดอกทานตะวัน อันเป็นสัญลักษณ์คู่กับพระอาทิตย์เสมอ บอกถึงตัวเธอที่เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย 


        เกิดวันจันทร์ 

          ต้นไม้ประจำวันเกิดของเธอคือ ต้นมะลิ ต้นแก้ว ต้นพุด ต้นจำปี ยิ่งถ้าปลูกแล้วออกดอกหอม เธอจะยิ่งโชคดี 

          ดอกไม้ประจำวันเกิด คือดอกมะลิขาวสะอาด หมายถึงตัวเธอที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน เรียบร้อย ส่วนดอกไม้อีกชนิดคือ ดอกกุหลาบขาว หมายถึงความรักที่อ่อนโยนและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเพราะคนวันจันทร์มักอ่อนไหวง่าย โรแมนติก และช่างฝัน 


        เกิดวันอังคาร 

          ต้นไม้ที่แสนดีของเธอคือ ต้นชัยพฤกษ์ ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นยี่โถ ออกดอกสีชมพู ต้นเข็มออกดอกสีชมพู ถ้าต้นไม้ของเธอออกดอกมากๆ บอกได้ว่าเธอกำลังมีความสุข

          ดอกไม้ประจำวันเกิดของเธอคือ ดอกกล้วยไม้ โดยเฉพาะที่ออกดอกสีชมพู เพราะมีความหมายถึงความรักที่ร้อนรุ่ม หวือหวา วูบวาบตามอารมณ์ของคนที่เกิดวันนี้ 


  
        เกิดวันพุธ

          ต้นไม้ประจำตัวคนที่เกิดวันพุธนั้นพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่เป็นต้นไม้ใบเขียว โดยเฉพาะต้นกระดังงา ต้นสนฉัตร ดังนั้นเธอควรปลูกต้นไม้เยอะๆ ถึงจะโชคดี ต้นไม้เหล่านั้นจะช่วยปกป้องคุ้มครองเธอได้ คือ ดอกบัว หมายถึงจิตใจอันสงบ เพราะคนที่เกิดวันพุธมักชอบเป็นนักการทูตและรักสันติภาพ

          ดอกไม้ประจำวันเกิด คือดอกบัว ซึ่งคนที่เกิดวันพุธมักจะเป็นนักคำนวณ (เงิน) สีเหลืองอร่ามราวกับทองของดอกไม้ชนิดนี้ หมายถึงรักของเธอต้องมาพร้อมเงิน 


        เกิดวันพฤหัสบดี 

          ต้นไม้ประจำตัวคือ ต้นโสน ต้นราชพฤกษ์ และต้นบานบุรี หากมีต้นไม้เหล่านี้อยู่ในบ้านจะช่วยคุ้มครองดูแลเธอ 

          ดอกไม้ประจำวันเกิดของเธอคือ ดอกกุหลาบสีเหลือง หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความรัก รักซ้อนซ่อนใจ เพราะคนที่เกิดวันนี้เป็นคนรักง่ายหน่ายเร็ว เจ้าชู้เล็กๆ ดอกไม้อีกชนิดหนึ่งคือดอกคาร์เนชั่นสีชมพู หมายถึงรักของเธอที่อ่อนโยนและอ่อนหวาน เธอที่เกิดวันนี้ จริงๆ แล้วเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีอารมณ์ขัน น่ารักเหมือนดอกไม้ของเธอนั่นแหละ 


         เกิดวันเสาร์ 

          จะมีต้นไม้พวกต้นกัลปังหา ต้นพวงคราม ต้นอินทนิล เป็นต้นไม้ประจำวันเกิด 

          ดอกไม้ประจำวันเกิดคือ ดอกลิลลี่ อันหมายถึงรักครั้งแรก รักที่บริสุทธิ์เพราะคนที่เกิดวันเสาร์เป็นคนจริงจังและซีเรียส จึงรักใครยากหน่อย ทว่าดอกลิลลี่เป็นดอกที่กระทบใจคนขี้เหงาวันเสาร์ได้ดีทีเดียว


 อ้างอิง http://hilight.kapook.com/view/15666


การขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์ไม้ประดับไม่ได้แตกต่างจากพืชชนิดอื่นๆ  แต่ต้องพิจารณาถึงชนิดและประเภทของพันธุ์ไม้ วิธีการขยายพันธุ์ไม้ประดับที่ได้ผลดีและนิยมกันมาก ได้แก่ การเพาะเมล็ด การแยกหน่อ การตัดชำ และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ



การเพาะเมล็ด เป็นการขยายพันธุ์ที่ง่ายและประหยัดที่สุด แต่ก่อนที่จะเพาะเมล็ดนั้นจะต้องรู้ว่าเมล็ดที่จะเพาะมีการพักตัวหรือไม่ เปลือกเมล็ดหนาหรือบาง เมล็ดพืชแต่ละชนิดมีอายุการงอกแตกต่างกัน วัสดุที่ใช้เพาะเมล็ดต้องมีความร่วนซุยและอุ้มน้ำได้ดี โดยส่วนมากใช้วัสดุเพาะที่มีส่วนผสมของทราย+ขี้เถ้าแกลบ+ดินร่วน อัตราส่วน 1:1:1 ใส่ในกระบะเพาะ เมื่อเมล็ดงอกจนมีใบจริงแล้วจึงย้ายปลูกลงกระถางหรือถุงพลาสติกต่อไป พืชที่นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้ ได้แก่ พืชตระกูลหมาก ตระกูลปาล์ม เป็นต้น




การแยกหน่อ เป็นการขยายพันธุ์สำหรับพืชที่มีหน่อหรือมีลำต้นใต้ดิน โดยแยกหน่อที่เกิดรอบๆ ต้นแม่ และต้องระวังในการขุดหรือตัดแยกอย่าให้หน่อหักหรือช้ำ และต้องมีรากติดมาด้วยเสมอ พืชที่นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้ ได้แก่ พืชตระกูลหมาก ตระกูลปาล์ม และตระกูลกล้วย เป็นต้น



การตัดชำ เป็นการขยายพันธุ์โดยนำเอาส่วนของพืชที่มีความสามารถในการเกิดรากและเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้ การขยายพันธุ์โดยการตัดชำนี้มีอยู่ 3 วิธี คือ การตัดชำกิ่งหรือลำต้น โดยกิ่งที่จะชำนั้นต้องเป็นกิ่งที่ไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไป อีกวิธีหนึ่ง คือ การตัดชำใบ โดยใช้ส่วนต่างๆ ของใบ เช่น แผ่นใบ ส่วนของใบ ใบที่มีตาติด และก้านใบ นิยมใช้กับพืชที่มีใบใหญ่ หนา หรืออวบน้ำ และวิธีต้ดชำอีกวิธีหนึ่ง คือ การตัดชำราก สามารถทำได้กับพืชบางชนิดเท่านั้น เช่น สน โดยรากที่จะนำมาตัดชำต้องเป็นรากที่สมบูรณ์ไม่มีโรคและแมลงรบกวน



การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ  เป็นวิธีการขยายพันธุ์เพื่อให้ได้ต้นที่ตรงตามพันธุ์ ปริมาณมากในระยะเวลาสั้น นอกจากนี้แล้วยังสามารถขยายพันธุ์ลูกผสมใหม่ๆ จากการผสมพันธุ์หรือจากการกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ได้ปริมาณมากในระยะเวลาสั้นเช่นเดียวกัน การขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ คือ




ระยะที่ 0) การเตรียมต้นแม่พันธุ์
คัดเลือกต้นพันธุ์ดีที่ปลูกในวัสดุปลูกที่สะอาดผ่านการฆ่าเชื้อ มีการป้องกันโรคและแมลง ดูแลให้ปุ๋ยบำรุงพืชให้เจริญเติบโตแข็งแรงและสมบูรณ์ และลดการปนเปื้อนในการนำส่วนต่างๆ มาเป็นชิ้นส่วนตั้งต้น



ระยะที่ 1) การชักนำให้เกิดต้น
นำชิ้นส่วนตั้งต้นจากส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ยอด ตาข้าง ใบอ่อน หรือดอกอ่อน มาฟอกฆ่าเชื้อ และเพาะเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห์




ระยะที่ 2) การเพิ่มปริมาณต้น
นำต้นอ่อนที่ได้มาทำการเพิ่มปริมาณต้นทุกๆ 6-8 สัปดาห์ ขึ้นกับชนิดของพันธุ์พืชที่เพาะเลี้ยง


 ระยะที่ 3) การยืดยาวของลำต้นและการกระตุ้นหรือพัฒนาการออกราก
ตัดแยกพืชที่เพาะเลี้ยงให้เป็นต้นเดี่ยว เพาะเลี้ยงในอาหารเพื่อกระตุ้นให้เกิดราก ใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช



 ระยะที่ 4) การปรับสภาพและการย้ายปลูกต้นที่ได้จากการกระตุ้นการเกิดราก
นำต้นกล้าเล็กมาล้างรากให้สะอาด คัดขนาดของต้นให้มีความสม่ำเสมอแล้วย้ายปลูกในสภาพแวดล้อมภายนอกในกระบะที่มีวัสดุปลูกที่นึ่งฆ่าเชื้อแล้วที่มีส่วนผสมของ ดินร่วน:ทรายหยาบ:ใบไม้ผุ:ปุ๋ยคอก อัตราส่วน 1:1:1:1 ทำการปรับสภาพต้นโดยลดอุณหภูมิและเพิ่มความชื้นสัมพัทธ์ซึ่งอาจใช้ระบบพ่นหมอก พ่นฝอย หรือเต็นท์ทำความเย็น และลดความเข้มแสงลงให้เหลือประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งต้นสามารถเจริญเติบโตได้ดีจึงค่อยๆ ลดความชื้นสัมพัทธ์ลงพร้อมๆ กับเพิ่มความเข้มแสงซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์

อ้างอิง  http://research.rae.mju.ac.th/raebase/index.php/base-learning/product1/garden-tree/42-propagation